2553/08/31

Cheesecake House & Restaurant

              ถ้าถามว่าขนมเค้กร้านไหนที่คุณคิดว่าอร่อยที่สุด จริงๆ แล้วต่างคนก็ต่างชอบกันใช่มั้ยคะ แต่สำหรับ We Recommend มีอยู่หลายร้านโปรดแบบ นับไม่ถ้วนเลยล่ะ และหนึ่งในรายชื่อร้านเค้กสุดโปรด ของเราเป็นชีสเค้กแสนอร่อยของ Cheesecake House ซึ่งเชื่อว่าที่นี่ก็เป็นร้านโปรดของใครหลายๆ คนเหมือน


          Cheesecake House & Restaurant ร้านชีสเค้กตั้งแต่สมัยคุณแม่ เปิดให้บริการความอร่อยของชีสเค้กสูตรโฮมเมดแท้ๆ ปัจจุบันนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 26 แล้วค่ะ และได้ทำการ Renovate ตกแต่งร้านใหม่ ให้กลายเป็นคาเฟ่เล็กๆ ในบรรยากาศอบอุ่นน่านั่ง เปิดประตูเข้ามาเจอเคาท์เตอร์ขนมอบหอมกรุ่น อย่างพาย คุกกี้ ขนมปังใกล้ๆ กันเป็นตู้โชว์ชีสเค้กกว่า 20 ชนิดและเค้กอื่นๆ อีกกว่า 20 ชนิด อบสดใหม่ๆ ให้เราเลือกอร่อยกันได้ตามชอบเลยค่ะ


              นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องชีสเค้กแล้ว ที่นี้ยังมีอาหารจานพิเศษให้คุณอิ่มท้องสำหรับมื้อเที่ยง ซึ่งเน้นเมนูง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น เส้นใหญ่หมูยำแซ่บคะน้ากรอบ (150 บาท) เส้นใหญ่กับหมูนุ่มๆ ราดน้ำยำรสแซ่บ พร้อมผักสดกรอบ ต่อด้วยฟิวชั่นโฮมเมด สปาเก็ตตี้หมึกดำเนื้อเค็ม (185 บาท) รสกลมกล่อมเผ็ดนิดๆ หอมกระเทียมและโหระพา อีกเมนูน่าทาน ข้าวหมูสามชั้นตุ๋นหม้อดิน (150 บาท) หมูตุ๋นหอมเปื่อยนุ่มกับข้าวสวยร้อนๆ ทานเคียงกับกระหล่ำปลีดอง


            พักเบรคด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ซักแก้ว 2 แก้วนะคะ Pink Lemonade (60 บาท) น้ำมะนาวสีทับทิมรสหวานเย็นปนซ่า Lemongrass Sling (60 บาท) น้ำมะนาวสด หอมกลิ่นใบสาระแหน่
         
      

            มาลองขนมอบอร่อยๆ กันบ้างค่ะ เริ่มที่ Taro Cup Cake (70 บาท) คัพเค้กเผือกหอมนุ่มกำลังดี Cinnamon Roll (22 บาท) เนื้อแป้งแบบโดนัทราดด้วยครีมชินนาม่อน หรือ Apple & Cinnamon (22 บาท) แป้งนุ่มราดครีมแอปเปิ้ลผสมชินนาม่อน, Lemon Meringue Pie (80 บาท) เลม่อนเมอแรงก์มูสฟูนุ่มหวานตัดเปรี้ยวเข้ากันดี


             และไฮไลท์ของร้านนี้ต้องนี่เลย Strawberry Cheesecake (100 บาท)    ชีสเค้กเนื้อเนียนสีเหลืองนวลนิ่มนุ่มลิ้น กับสตรอว์เบอร์รี่สดลูกโต และ Strawberry Short Cake (90 บาท) ครีมนุ่มสลับกับแป้งชอร์ตเค้ก ทานกับสตรอเบอร์รี่ซอส

           คงไม่เกินไปถ้าจะบอกว่าชีสเค้กของร้านนี้อร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และเชื่อว่าหากคุณได้ลองทานอาหารและเค้กอร่อยของ Cheesecake House รับรองได้ว่าต้องติดใจและที่นี่จะกลายเป็นร้านโปรดของคุณแน่นอนค่ะ



ที่ตั้ง :
69/2 ซอยแจ่มจันทร์ (ซอยทองหล่อ 20) เอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพฯ


โทร :
สาขาทองหล่อ 0-2711-4149,
สาขาเมเจอร์เอกมัย 0-2714-2880

 
เปิดบริการ :
09.00 - 21.30 น. ทุกวัน








 


2553/08/28

Jesada Technik Museum

Jesada Technik Museum
เจษฎา เทคนิค มิวเซียม

        


            เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรวบและจัดแสดงยานยนต์ เครื่องกล ยานพาหนะ หลากหลายชนิด ปัจจุบัน Jesada Technik Museum ได้รวบรวมยานพาหนะทุกประเภทจากทั่วทุกมุมโลก และอาจเป็นพิพิธภัณฑ์ยานพาหนะแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีของสะสมมากที่สุดในแถบเอเซีย โดยยานพาหนะที่รวบรวมนี้มีทั้ง ยานพาหนะทางบก, ยานพาหนะทางน้ำ และยานพาหนะทางอากาศ เป็นต้น


 


                  Jesada Technik Museum ก่อตั้งโดยคุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทยที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก โดยในการเดินทางแต่ละครั้งได้มีโอกาสเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในต่างประเทศ ได้เห็นความสวยงาม วัฒนธรรมของสะสมล้ำค่าในต่างประเทศมากมาย ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ มีแนวคิดในการสะสมขึ้น ด้วยมีใจรักและชอบในยวดยานพาหนะมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะรถที่มีขนาดเล็ก หรือรถการ์ตูน (Bubble Car) ที่มีความชื่นชอบเป็นพิเศษ จึงเริ่มสะสมยานพาหนะอย่างจริงจัง โดยรถคันแรกในชีวิตของการสะสมเป็นรถเล็กที่ประมูลมาได้จากประเทศสวิตเซอร์ แลนด์

 


                     สำหรับยานพาหนะทางบก พิพิธภัณฑ์นี้ได้รวบรวมรถทุกประเภทและจุดเด่นของยานพาหนะที่สะสมคือ Bubble Car โดยลักษณะของรถจะเป็นรถที่มีเครื่องยนต์ ส่วนยานพาหนะทางอากาศ จะเป็นจำพวกเครื่องบินอาทิ Tri Star, Dakota และ Boeing 747 เป็นต้น และล่าสุดในหมวดยานพาหนะทางน้ำนอกเหนือจากเรือประเภทต่างๆที่มีแล้วกว่า 100 ลำ ทาง Jesada Technik Museum ได้ทำการติดต่อซื้อเรือดำน้ำสัญชาติรัสเซีย U-194 "WHISKEY CLASS" มาไว้เพื่อให้คนไทยและผู้ที่สนใจได้เยี่ยมชมในโอกาสต่อไป



                                    



พิพิธภัณฑ์เจษฎา เทคนิค มิวเซียม
เปิดบริการให้เข้าเยี่ยมชม ทุกวันในเวลา 9.00-17.00 น.


พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่เลขที่ 100 หมู่ 2 ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120

ติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่สำนักงาน หมายเลข
02-819-4000,
086-9795777,
086-9796222

ติดต่อพิพิธภัณฑ์ได้ที่หมายเลข
034-339-468




E-mail info@jesadatechnikmuseum.com
เว็บไซต์ www.jesadatechnikmuseum.com


ขอบคุณ : http://www.me-dzine.com/travel/Jesada-Technik-Museum.html

2553/08/27

OASIS ...The private place to chill out...

ร้านโอเอซิส (OASIS)



            ร้านโอเอซิส (Oasis) เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับ คนที่ต้องการหาร้านนั่งทานอาหารแบบส่วนตัว ชิลๆ สบายๆ ด้วยการตกแต่งร้านที่ดูเป็นธรรมชาติ โปร่ง โล่งสบาย ได้บรรยากาศแบบโอเอซิสจริงๆ บางคนก็บอกว่าร้านหายาก สมชื่อโอเอซิสจริงๆ ครับ ว่าไปนั่น แต่จริงๆ แล้วร้านก็ไม่ได้หายากเท่าที่ควร ใครเคยผ่านแถวเสนาวังหิน ถ้ารู้จัก Lotus ก็นั่นแหละครับ อยู่ตรงกันข้ามเลย หาไม่ยากครับ



   
           ร้านโอเอซิสเกิดจากแรงบันดาลใจของหุ้นส่วนหลายๆ คนที่บังเอิญมาพบกันในร้าน แล้วเกิดปิ๊งสถานที่แห่งนี้ ที่เหมาะกับเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์พักผ่อน หย่อนใจ สำหรับคนที่ทำงานมาเหนื่อยๆ และได้ตั้งชื่อร้านว่า OASIS เพื่อให้สะท้อนถึงคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า The private place to chill out.

                                                                                                                            
                                                                      
แนะนำเมนูยอดฮิต
ทะเลพิโรธ (รวมทะเล กับน้ำยำสูตร OASIS) 180.- ไม่แพงเลยสำหรับจานนี้ ที่ประกอบด้วยกุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์ พร้อมทั้งยำมะม่วงในจานเดียวกัน จุดเด่นอยู่ที่ความพิโรธของน้ำจิ้มครับ เปรี้ยวจี๊ด จัดจ้าน รสจัด เหมาะกับคนที่ชอบอะไรแบบอร่อยจัดจ้าน




 
หมูกรอบทอดน้ำปลา (อาหารขายดีของร้าน) 150.- เคยกินแต่ปลากระพงทอดน้ำปลา คราวนี้ ได้ลิ้มลองหมูทอดน้ำปลาบ้าง กลิ่นไม่ค่อยต่างกัน แต่รสชาติต่างกันเยอะ กับเนื้อหมูแน่นๆ แบบเต็มๆ ผสมกับกลิ่นของกระเทียมเจียม สุดยอดครับ เหมาะกับเป็นกับแกล้มเลยแหละ จานนี้











แกงข่ามะพร้าวอ่อน ปลาสลิดทอดกรอบ180.- ใช้น้ำมะพร้าวอ่อนเพิ่มความหอมของน้ำแกง ปลาสลิดทอดกรอบแยกโรย หม้อไฟ ที่หลังเพื่อคงความกรอบขณะรับประทาน ทานคู่กับปลาสลิดทอดกรอบจะเห็นความแตกต่าง จากแกงข่าทั่วไป




 
                    


 
ยำมิยาบิ 150.- แค่ได้ยินชื่อก็น่าสนใจแล้ว สำหรับยำมิยาบิ ใช้ปลาหมึกกล้วยตัวเล็กตัดหางออก แล้วยัดกุ้งทั้งตัวเข้าไปในตัวปลาหมึก เหลือหางกุ้งโผ่ลออกมาให้เห็นครับ นำไปลวกพอสุก แล้วราดด้วยน้ำยำทะเลวาซาบิ ขอบอกว่าเผ็ดใช้ได้เลยครับ
                           
                                                                                                            



ปลากะพงทอด แบบแผ่เนื้อด้านในออกเลาะก้าง ครึ่งซ้ายราดสมุนไพรคั่ว ครึ่งขวาเป็น Tamarind sauce หรือ เรียกแบบไทย ๆ ว่าน้ำปลาหวาน ทานคู่กะผักชีสด และ สะเดา จุดเด่นอยู่ที่ซีกหนึ่งเผ็ด อีกซีกหนึ่งหวาน







ยอดมะระไฟแดงกุ้งแก้วกรอบ150.-ยอดมะระผัดไฟแดงออกรสเค็มนำเล็กน้อย ตบแต่งด้วย กุ้งแก้วที่มีความหวาน และ นำมาทอด เพิ่มความกรอบ








แผนที่ ร้านโอเอซิส




ติดตามรายละเอียดของร้านเพิ่มเติมได้ที่ :

http://www.oasiswanghin.com/
http://www.facebook.com/oasis%20wanghin





 
ขอบคุณ : http://travel.mthai.com/view/40987.travel


2553/08/25

ปีนภูดูทะเลดอกไม้ในป่าสน บน"ภูสอยดาว"

ภูสอยดาว
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชึ้นชื่อในด้านความงดงามของธรรมฃาติที่มีการผสมผสานไว้ได้วยเรื่องราวของป่าสน ทุ่งหญ้า และความมหัศจรรย์ของทุ่งดอกไม้ ที่ผลิบานในช่วงฤดูฝน   ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะพบกับภาพความสวยงามพร้อมๆ กันหลายอย่าง



หากว่าเราได้เลือกค้นหาธรรมชาติในช่วงรอยต่อของฤดูกาลที่เรามักรู้จักกันในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่สภาพอากาศจะเอื้อต่อการท่องเที่ยวและเป็นช่วงืที่ดอกไม้ในธรรมฃาติสวยสมบูรณ์ที่สุด

         ลักษณะดอกไม้ในช่วงปลายฝนต้นหนาวมักเป็นประเภทดอกไม้บนลานหินทราย รอยต่อแห่งฤดูกาลจะได้พบกับดอกไม้ในธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างสวยงามและสมบูรณ์ แต่ละที่แต่ละแห่งจะพบดอกไม้ที่ต่างชนิดกัน ความสวยงามจึงต่างกันในขนาของดอก สีสัน ปริมาณ และสภาพภูมิประเทศด้วย




ช่วงปลายฝนอย่างนี้ สภาพธรรมชาติที่ภูสอยดาวซึ่งเคยพบทุ่งดอกหงอนนาคที่เคยเบ่งบานเต็มท้องทุ่ง ก็เริ่มเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง ดอกไม้อย่างอื่นก็เริ่มมีทดแทนขึ้นมาบ้าง สร้างความสวยงามได้อย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมหมู่ดอกไม้ในป่าธรรมชาติได้ตลอดฤดูกาล

น้ำตกภูสอยดาว

เส้นทางท่องเที่ยวภูสอยดาว  ได้เริ่มขึ้นที่น้ำตกภูสอยดาวที่ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1268 ลักษณะของน้ำตกภูสอยดาวเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากผืนป่าที่สมบูรณ์จากยอดเขา สายน้ำตกมีอยู่หลายชั้นไหลลดหลั่นมาจากแนวป่า                                                        
                 
           จากจุดเริ่มต้นเดินเท้าจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นักท่องเที่ยวสามารถหาลูกหาบได้ที่แห่งนี้เริ่มต้นการเดินเท้า เราจะพบกับ “เนินส่งญาติ” เป็นเนินเขาที่สูงชันยาวหลายร้อยเมตร ตอนหลังก็มีทางเลี่ยงโดยเดินทวนสายน้ำตก แล้วตัดขึ้นสันเขา จะไม่ชันเท่ากับเส้นทางดั้งเดิม
                                                                                                    
           เมื่อพ้นเนินส่งญาติมาแล้ว เราก็มาพบกับ “เนินปราบเซียน” เป็นเนินเขาสูงชันที่ไต่ไปตามสันเขา มีหุบทั้งสองฝั่ง ด้านซ้ายเป็นห้วยน้ำพาย ต้นกำเนิดน้ำตกภูสอยดาว ทางด้านขวาเป็นลำน้ำภาค ที่แบ่งรอยต่อระหว่างพิษณุโลกกับอุตรดิตถ์


เทือกภูสอยดาว


จนกระทั่งมาพบกับ “เนินเสือโคร่ง” ฟังเชื่อแล้วน่าเกรงขามไม่น้อยทีเดียว แล้วมาถึงเป้าหมายสำคัญที่ “เนินมรณะ” เป็นเนินที่สูงชันมาก ยิ่งเป็นช่วงปลายของการเดินป่าทำให้เหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้น จนเมื่อพ้นนี้แล้ว เราก็มาพบกับทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และป่าสนที่สวยงามของลานป่าสนภูสอยดาว ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 ชั่วโมง




จุดตั้งแค้มป์จะถูกกำหนดไว้โดยทางอุทยานฯ วันแรกเราก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ช่วงเย็นก็ไปชมพระอาทิตย์ตกที่ริมหน้าผา ถ้าสภาพอากาศเปิดก็จะได้ชมภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งวิวด้านล่าง และวิวป่าสน

 ดอกเอนอ้า










หญ้าน้ำค้าง














ทุ่งดอกหงอนนาค
        
         เช้าวันรุ่งขึ้น จะเป็นวันที่เราเดินเที่ยวชมธรรมชาติบนลานภูสอยดาวที่อยู่ในระดับความสูงประมาณ 1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีลักษณะเป็นป่าสน ยามหน้าฝนจะพบดอกหงอนนาคอยู่ทั่วท้องทุ่ง รวมทั้งดอกไม้อื่นๆ อีกหลายชนิด เราสามารถเดินตามเส้นทางลำลองบนทุ่งหญ้าไปได้ โดยไม่ต้องกลัวหลง พื้นที่บางส่วนติดต่อกับประเทศลาว สภาพป่าบางส่วนเป็นป่าดิบไปจรดเชิงเขาสูงที่มียอดสูงสุด 2,102 เมตร จากระดับน้ำทะเล


         เส้นทางท่องธรรมชาติชมหมู่ดอกไม้ป่าที่ผลิบานในช่วงฤดูฝน ดอกหงอนนาคจะเป็นดอกไม้ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เพราะสามารถพบเห็นได้เต็มทุ่งหญ้า จะมีบางจุดที่เราต้องตื่นตะลึงกับความอลังการของทุ่งดอกหงอนนาคที่ขึ้นกันหนาแน่น เท่าที่เคยเที่ยวมาก็ไม่เคยเห็นที่ไหนสวยงามเท่ากับภูสอยดาวอีกแล้ว

เมื่อสายฝนผ่านไปจนถึงช่วงสุดท้าย สภาพธรรมชาติที่ลานป่าสนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ดอกหงอนนาคเริ่มเหี่ยวเฉาและบางตาลง กลับจะมีดอกสีเหลืองขึ้นมาหนาแน่น ดูแล้วจะเป็นพืชตระกูลถั่ว ได้สร้างสีสันขึ้นมาอีกโทนหนึ่งให้กับผืนป่าสีเขียวนี้

ดอกหงอนนาค

         และยังมีดอกไม้ป่าสีชมพูที่ขึ้นทมาทดแทนและแซมสลับอยู่กับดอกไม้สีเหลืองหรือดอกหงอนนคา จะมีลักษณะใกล้เคียงกับชมพูเชียงดาว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพรรณไม้ก็ยืนยันว่าเป็น “ชมพูเชียงดาว” อย่างแน่นอน ซึ่งเราเคยพบที่ดอยเชียงดาว แต่ไม่เยอะเท่ากับภูสอยดาว ที่แห่งนี้เยอะจนกลายเป็นเรื่องธรรมชาติไปเลย

นอกจากนี้ยังมี น้ำตกสายทิพย์ ที่อยู่ใกล้กับที่พัก เราสามารถเดินเที่ยวได้ครบทุกชั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีลีลาที่สวยงามเขียวขจีไปโขดหินและแนวป่าในร่องหุบห้วย


       ภูสอยดาว จึงจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของทุ่งดอกไม้ที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย ที่มีความงดงามของดอกไม้หลากชนิด ที่ผลัดเปลี่ยนกันผลิบานนับจากช่วงฤดูฝนจนถึงย่างเข้าฤดูหนาว ที่เราสามารถเที่ยวชมกันได้อย่างเต็มอิ่ม ได้ตามช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม


 
....................................................................................................................................................................
ข้อมูลการเดินทาง


       การเดินทางสู่ภูสอยดาว สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง หากจะให้สะดวกควรเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือหาเช่ารถตู้จะสะดวกที่สุด ส่วนเส้นทางการเดินทางมีดังนี้

1.กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ แล้วใช้เส้นทางอุตรดิตถ์-น้ำปาด-บ้านห้วยมุ่น แล้วไปถึง กม.62 ในเส้นทาง
    สาย 1268 จะถึงน้ำตกภูสอยดาว

2.กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ต่อจากนั้นใช้เส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก เข้านครไทย-ชาติตระการ-บ้านบ่อภาค ไปออกเส้นทาง1268 เลี้ยวซ้ายไปจนถึง กม.62 น้ำตกภูสอยดาว


3.กรุงเทพฯ-หล่มสัก ต่อจากนั้นให้ใช้เส้นทางสายหล่มสัก-ด่านซ้าย-นาแห้ว ใช้เส้นทาง 1268 จนถึงกม.62 น้ำตกภูสอยดาว

ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม
สามารถชมทุ่งดอกไม้ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

การติดต่อ
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
โทร.055-436-001-2




ขอบคุณ : http://www.moohin.com/trips/uttaradit/phusoidao/

2553/08/22

Peony House


                                                       Peony House
ชื่อร้านแปลว่า ดอกโบตั๋น บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายความหวานคลาสสิกสไตล์จีน และโมเดิร์นประดับด้วยภาพเขียนดอกโบตั๋น สัญลักษณ์ของความรัก ตัวร้านแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มที่หน้าบาร์เป็นมุมพักผ่อน ถัดเข้าไปด้านในเป็นสวน Outdoor ขนาดย่อม และโซนในสุดเป็นพื้นที่ Gallery แสดงงานศิลปะภาพเขียนพู่กันจีน นอกจากนี้ ยังมีบริการ Wi-Fi ฟรี!! 

สถานที่ตั้ง Peony House:
132/3 ซอย ศาลาแดง 1 ใกล้กับอาคารทิสโก้ ศาลาแดง สีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500


เบอร์โทรศัพท์ Peony House:
0-2235-5369

การเดินทาง Peony House:
จากถนนศาลาแดง ให้ตรงไปทางอาคารทิสโก้ แล้วให้เลี้ยวเข้าซอยศาลาแดง 1 ไปประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านพีโอนีเฮ้าส์อยู่ใกล้กับอาคารทิสโก้

สถานที่จอดรถ Peony House:
ทางร้านไม่มีที่จอดรถให้โดยเฉพาะ ลูกค้าต้องหาที่จอดรถเอง
 
 
 


วันและเวลาเปิดปิดทำการ
เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา     07.00-20.00 น.
                 เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.


ประเภทอาหาร
เค้ก ขนมและเบเกอรี่เครื่องดื่มและของว่าง

เมนูแนะนำ
ชาจีน,ชาญี่ปุ่น,ชาไต้หวัน,ชาดอกไม้,ชาผลไม้,ช็อกโกแลต,กาแฟ,บลูเบอร์รี่ชีสพาย,เค้กดาร์คช็อกโกแลตราดครีมสด,แซนด์วิช,ไอศครีมโฮมเมดจากอิตาลี






บริการอื่นๆ
อินเตอร์เน็ต - Wifi 
 
 
เว็บไซต์
www.peonyhouse.com
 
 ขอบคุณ : http://www.edtguide.com/PeonyHouse_484398#