2553/09/02

เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองเพชร

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี



          เจดีย์และอาคารสีขาวปรากฎให้เห็นอยู่ลิบ ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสไปเยือน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีก็ว่าได้ ใช่แล้ว! เรากำลังพูดถึง "เขาวัง" โบราณสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรี สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องแวะเวียนไปเยี่ยมชม และวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ย้อนวันวาน ค่อย ๆ ย่างก้าวไปทำความรู้จัก "เขาวัง" พระราชวังแห่งแรกในหัวเมืองสมัยรัตนโกสินทร์กันค่ะ...


 
 

        อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี หรือที่รู้จักกันในนาม "เขาวัง" เป็นพระราชวังใน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี แต่เดิมเรียกว่า เขาสมณ (สะ-หมน) หรือ เขามไหศวรรย์ (เพี้ยนมาจากเขามหาศวรรค์) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เรียกสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ บนยอดเขาทั้ง 3 นี้ว่า พระนครคีรี สร้างเสร็จในราวปี พ.ศ. 2402 โดยมีพระราชประสงค์ใช้เป็นสถานที่แปรพระราชถานในฤดูร้อน และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา มีความสูง 95 เมตร จากระดับน้ำทะเล



        บนยอดเขาทั้ง 3 ยอดนี้ ประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ ที่สำคัญได้แก่ ทางยอดเขาตะวันตกมี พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ พระที่นั่งปราโมทย์มไหศวรรย์ พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระที่นั่งราชธรรมสภา พระตำหนักสันถาคานสถาน หอพิมานเพชรมเหศวร หอจตุเวทปริตรพงษ์ และหอชัชวาลเวียงชัยซึ่งเป็นหอดูดาว สถาปัตยกรรมหลักเป็นแบบ "นีโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน" ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 เช่นเครื่องลายคราม เครื่องสังคโลก และเครื่องใช้จากยุโรปและญี่ปุ่นสมัยก่อน



             ยอดเขากลางเป็นที่ตั้งพระเจดีย์นามว่า "พระธาตุจอมเพชร" ซึ่งแต่เดิมเป็นเจดีย์บนยอดเขาที่ปรักหักพังมาก รัชกาลที่ 4 จึงทรงให้สร้างเจดีย์ใหญ่ครอบองค์เดิม ความสูงขององค์พระธาตุราว 40 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้สักกระบูชา ส่วนยอดเขาด้านตะวันออกทรงโปรดให้สร้างวัดขึ้นเรียกว่า "วัดพระแก้วน้อย" เพื่อจำลองวัดพระแก้วในพระบรมหาราชวังในกรุงเทพมหานคร โบสถ์ของวัดพระแก้วน้อยและหมู่อาคาร เช่น พระปรางค์แดงและพระสุทธเสลเจดีย์ที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลง ถอดมาจากเจดีย์บนเกาะสีชังเพื่อนำมาประกอบขึ้นใหม่ที่นี่ และศิลปะปูนปั้นบนหน้าบันของพระอุโบสถยังเป็นอีกสิ่งที่น่าชมเช่นกัน

       นอกจากนั้น ยังมีศาลาเล็ก ๆ ทางเดินเชื่อมต่อกันระหว่างยอดเขาและหมู่อาคาร ภายใต้ร่มเงาของต้นลีลาวดีที่ออกดอกสีขาวและส่งกลิ่นหอมทั่วเขาวัง การเข้าชมโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี นอกจากจะได้ความรู้ในเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว ผู้เข้าชมยังได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเนินเขาและตัวเมืองเพชรบุรีโดย รอบอีกด้วย




 


      การเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี สามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือเดินขึ้นทางด้านหน้าด้านทิศตะวันออก หรือขึ้นรถรางไฟฟ้าทางด้านทิศตะวันตก เสียค่าบริการขึ้น-ลง คนละ 40 บาท และเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมเฉพาะผู้ใหญ่ คนไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 150 บาท
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.

 
 
 

 
 
          เพชรบุรีเป็นเมืองแห่งต้นตาลโตนด ในท้องทุ่งนาเมืองเพชรมองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร นับตั้งแต่อาคารคาวไปจนถึงอาหารหวาน ของกินเล่น อาหารและขนมที่ทำจากลูกตาลโตนดนี้ เป็นปรากฏในบทสวดบินของเก่า ซึ่งได้กล่าวถึงอาหารคาวหวานของเมืองเพชรบุรีไว้อย่างติดอกติดใจว่า...



"เพชรบูรีแกงหัวตาล            เนื้อย่างฝานบาง ๆ ใส
                                            เนื้อวัวแลตับไก่                   แกงกับใบโหระพา"

                                           "ขนมเพชรบูรี                       ใหญ่สิ้นดีทั้วหวานมัน        
                                            ผู้ดีเมืองเพชรนั้น                 เขายกย่องกันเป็นอย่างดี  
                                            โตนดเต้าแลจาวตาล          เปนเครื่องหวานเพชรบุรี     
                                            กินกับน้ำตาลยี                    ของมีมาช่วยกัน"

          เหล่านี้เป็นส่วนน้องของผลผลิตที่ต้นตาลโตนดให้แก่ชาวเมืองเพชรบุรี ส่วนต่างๆ ของต้นนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกมาก เช่น เนื้อไม้นำมาทำเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี หรือแม้แต่ขี้เถ้าของใบตาล นอกจากเป็นปุ๋ยแล้วยังนำมาละลายทำขนมเปียกปูนได้อีกด้วย
 
ขอบคุณ:
http://travel.kapook.com/view14757.html
http://www.chaiwbi.com
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น